
“Ume no Hana” ร้านอาหารญี่ปุ่นในบรรยากาศญี่ปุ่นดั้งเดิม
หากกำลังมองหาร้านที่สามารถเพลิดเพลินกับอาหารญี่ปุ่นและวัตถุดิบเฉพาะของญี่ปุ่น ในบรรยากาศที่อบอวลด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ขอแนะนำให้ไปเยือนร้านในเครือ “Ume no Hana Group”
บทความนี้จะแนะนำเสน่ห์ของแบรนด์หลักในเครือ “Ume no Hana Group” และร้านยอดนิยมในเมืองสำคัญต่าง ๆ
เครือนี้มีร้านอาหารหลากหลายคอนเซ็ปต์และประเภท ทั้งร้านไคเซกิแบบสร้างสรรค์ที่ใช้ยุบะและเต้าหู้อันเป็นวัตถุดิบดั้งเดิม ไปจนถึงร้านชาบูชาบูที่ดึงรสชาติอร่อยของเนื้อวากิวแบรนด์ออกมาได้อย่างเต็มที่ และยังมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น ทำให้สามารถบรรจุไว้ในแผนการท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดาย
ร้าน “Ume no Hana” คือที่แบบไหน?
“Ume no Hana Group” ก่อตั้งขึ้นในปี 1976 ที่จังหวัดฟุกุโอกะ ปัจจุบันมีสาขากว่า 170 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น
นอกจากเมืองใหญ่สำคัญอย่างโตเกียว โอซาก้า เกียวโต นาโกย่า และฟุกุโอกะแล้ว ยังมีสาขาในพื้นที่ชานเมืองจำนวนมาก อีกทั้งยังมีสาขาโซลาเรียที่บริหารเองในประเทศไทยด้วย
หัวใจหลักของกลุ่ม คือร้านอาหารญี่ปุ่น “Ume no Hana” ที่เสิร์ฟไคเซกิแบบสร้างสรรค์ โดยนำวัตถุดิบดั้งเดิมอย่างยุบะและเต้าหู้มาผสมผสานกับวัตถุดิบตามฤดูกาล
นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ร้านอาหารหลากหลายประเภท เช่น “Koume” ร้านชาบูชาบูและสุกี้ยากี้วากิวสุดหรู, “Kanishige” ร้านอาหารปูเฉพาะทาง และ “China Ume no Hana” ที่ผสมผสานอาหารจีนแท้กับการบริการแบบญี่ปุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย
จุดเด่นไม่ได้มีเพียงอาหารเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบบรรยากาศและการบริการ ทำให้สามารถสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณแห่งการต้อนรับในบรรยากาศญี่ปุ่นดั้งเดิมภายในร้าน
มีที่นั่งหลากหลายรูปแบบ เช่น ห้องส่วนตัวแบบโฮริโกะทัตสึ โต๊ะนั่ง และที่นั่งสำหรับกลุ่มใหญ่ รองรับได้หลายโอกาส
นอกจากนี้ ยังมีร้านเฉพาะทางสำหรับซื้อกลับบ้านที่จำหน่ายเมนูยอดนิยมของร้านและมากิซูชิ ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารสถานีรถไฟและห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก

“Ume no Hana” ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ให้คุณดื่มด่ำกับอาหารดั้งเดิมในบรรยากาศญี่ปุ่นแท้
ในบรรดาแบรนด์กว่า 20 แบรนด์ที่ “Ume no Hana Group” บริหารอยู่ แบรนด์ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดคือ “ร้านยุบะและเต้าหู้ Ume no Hana”
ที่นี่สามารถเพลิดเพลินกับไคเซกิที่ผสมผสาน “ยุบะ” และ “เต้าหู้” ซึ่งดีต่อสุขภาพ เข้ากับวัตถุดิบสดตามฤดูกาล
เสน่ห์อีกอย่างคือการใช้รสกลมกล่อมของน้ำซุปและรสชาติแท้ของวัตถุดิบเพื่อรังสรรค์เมนูหลากหลายชนิด
เพื่อให้ทุกสาขาสามารถเสิร์ฟรสชาติเดียวกัน ยุบะและเต้าหู้จึงทำขึ้นด้วยมือในโรงงานของทางร้าน
ช่างฝีมือจะปรับวิธีการทำยุบะให้เหมาะกับแต่ละเมนู และเต้าหู้ก็มีกลิ่นหอมและรสหวานเข้มจากถั่วเหลืองที่อยากให้ลิ้มลองสักครั้ง
นอกจากนี้ยังมีเมนูสำหรับเด็ก รวมถึงไคเซกิผักและชุดอาหารกลางวันสำหรับมังสวิรัติที่รองรับผู้ทานวีแกน
มีเมนูภาษาต่างประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวก
อีกหนึ่งเสน่ห์ของ “Ume no Hana” คือบรรยากาศสไตล์เรียวกังที่อบอวลด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น
มีที่นั่งหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่โต๊ะกว้างขวางไปจนถึงห้องส่วนตัวแบบโฮริโกะทัตสึ รองรับได้หลายโอกาส
ลองใช้เวลาผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศเหนือวันปกติ พร้อมดื่มด่ำกับอาหารไคเซกิซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่นอย่างเต็มที่



5 ร้านยอดนิยม “Ume no Hana – ร้านยุบะและเต้าหู้” ในเมืองหลัก
ในบรรดาสาขาของ “Ume no Hana – ร้านยุบะและเต้าหู้” ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ขอนำเสนอ 5 สาขายอดนิยมที่ตั้งอยู่ในเมืองหลัก
แต่ละแห่งล้วนเดินทางสะดวกจากสถานีรถไฟ หากสนใจแนะนำให้ลองแวะไปเยี่ยมชม
1. 【โตเกียว】Ume no Hana สาขากินซ่า นามิกิโดริ
“Ume no Hana สาขากินซ่า นามิกิโดริ” ตั้งอยู่ในย่านการค้าหรูอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นอย่าง “กินซ่า”
เดินเพียง 5 นาทีจากสถานี JR ยูราคุโจ ทางออกกลาง หรือ 3 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดินกินซ่า ทางออก C8 จึงเดินทางได้สะดวก
จุดเด่นคือบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมเสมือนเรียวกัง รองรับแขกได้ทั้งหมด 130 ที่นั่ง
มีทั้งโต๊ะนั่งที่ใช้งานสะดวกสำหรับชาวต่างชาติ ห้องส่วนตัวแบบโฮริโกะทัตสึที่ถอดรองเท้านั่งได้สบาย และที่นั่งแบบกลุ่มรองรับได้สูงสุด 28 ท่าน ตอบโจทย์ได้หลายโอกาส



2. 【ซัปโปโร】Ume no Hana สาขาซัปโปโร
“Ume no Hana สาขาซัปโปโร” ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร เดินเพียง 1 นาทีจากทางออก 37 ของสถานีโอโดริ จึงเดินทางได้สะดวก
ห้องโถงที่จัดโต๊ะ 30 ที่นั่ง ให้บรรยากาศสงบในสไตล์ญี่ปุ่น เหมาะสำหรับการลิ้มรสไคเซกิแบบสร้างสรรค์ที่ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลอย่างเต็มที่
นอกจากโต๊ะนั่งสำหรับกลุ่มเล็กและห้องส่วนตัวแบบโฮริโกะทัตสึแล้ว ยังมีห้องส่วนตัวสำหรับกลุ่มใหญ่รองรับได้สูงสุด 22 ท่าน ให้สามารถรับประทานอาหารในพื้นที่ส่วนตัวได้อย่างเพลิดเพลิน


3. 【โอซาก้า】Ume no Hana สาขาอุเมดะ
“Ume no Hana สาขาอุเมดะ” ตั้งอยู่บนชั้น 17 ของอาคาร Hankyu Terminal เดินเพียงไม่เกิน 5 นาทีจากสถานีโอซาก้าและสถานีอุเมดะ จึงมีทำเลที่เดินทางสะดวกมาก แต่ภายในร้านกลับอบอวลด้วยบรรยากาศเงียบสงบ
มีห้องส่วนตัวหลากหลายขนาดตั้งแต่รองรับ 2 คนไปจนถึง 78 คน เหมาะทั้งสำหรับคู่รัก ครอบครัว หรือผู้ที่พาเด็กมาด้วย ทำให้สามารถรับประทานอาหารได้อย่างสบายโดยไม่ต้องกังวลสายตารอบข้าง
แต่ละห้องตกแต่งด้วยเอกลักษณ์เฉพาะ ให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ในเรียวกังญี่ปุ่น
อีกทั้งยังสามารถชมวิวของย่านการค้าคึกคักใจกลางโอซาก้าจากชั้น 17 ซึ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศสุดพิเศษให้มื้ออาหาร


4. 【นาโกยะ】Ume no Hana สาขาซาคาเอะ
“Ume no Hana สาขาซาคาเอะ” ตั้งอยู่ในย่านการค้าคึกคักใจกลางเมืองนาโกยะอย่าง “ซาคาเอะ”
เดินเพียง 1 นาทีจากสถานี Yabachō (รถไฟใต้ดินสาย Meijō) ทางออก 1 หรือ 10 นาทีจากสถานี Sakae (รถไฟใต้ดินสาย Higashiyama และ Meijō) ทางออก 13 จึงเดินทางสะดวกมาก
หน้าร้านตั้งอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า “Matsuzakaya Nagoya” ซึ่งมีร้านค้ามากมาย ทำให้แวะมารับประทานได้ง่ายทั้งระหว่างหรือหลังการช้อปปิ้ง
ภายในร้านให้บรรยากาศผสมผสานความทันสมัยกับเสน่ห์แบบญี่ปุ่น
มีห้องส่วนตัวให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ โฮริโกะทัตสึ เก้าอี้นั่ง และเสื่อตาตามิ รองรับได้ทั้งครอบครัว คู่รัก หรือกลุ่มเพื่อน เหมาะกับหลากหลายโอกาส


5. 【ฟุกุโอกะ】Ume no Hana Dazaifu Bessou Shizen-an
“Ume no Hana Dazaifu Bessou Shizen-an” ตั้งอยู่เพียงไม่กี่ก้าวจากแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของฟุกุโอกะอย่าง “ศาลเจ้า Dazaifu Tenmangū” และ “พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเคียวชū”
เมื่อก้าวผ่านประตูไม้ขนาดใหญ่เข้าไป จะพบสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่งดงาม พร้อมสระน้ำและห้องน้ำชา
เสน่ห์คือสามารถเดินชมสวนได้อย่างอิสระ และเพลิดเพลินกับทัศนียภาพตามฤดูกาลตลอดทั้งปี
มี “ห้องพิเศษ” ที่สามารถชมวิวสวนได้ เหมาะสำหรับใช้เวลาผ่อนคลายอย่างหรูหราในแบบเฉพาะของ Shizen-an



สรุป
เราได้แนะนำแบรนด์หลักของ “Ume no Hana Group” และสาขาของแบรนด์นี้ในเมืองสำคัญต่าง ๆ
แต่ละแห่งไม่เพียงให้คุณได้ลิ้มรสวัตถุดิบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังมอบช่วงเวลาแสนพิเศษในบรรยากาศและวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
หากคุณอยากสัมผัสทั้งรสชาติอาหารและบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น ขอแนะนำให้นำร้านเหล่านี้ที่เราแนะนำไปใส่ไว้ในแผนการท่องเที่ยวของคุณ